สเต็กเนื้อจิงโจ้ เนื้อดีจนต้องท้าให้ลอง

เนื่องมาจากเมื่อไม่นานมานี่ มีโอกาสได้พาคณะนักท่องเที่ยวจากเมืองไทยมาเยี่ยมเยือนซิดนี่ย์ เลยได้แนะนำเมนูพิเศษที่เมื่อทุกคนเดินทางมาที่นี่ต้องลองชิมดูสักครั้ง นั่นคือ สเต็กเนื้อจิงโจ้ ซึ่งขอบอกตามตรงเลยว่าตัวเองอยู่ซิดนี่ย์มา 2 ปีแล้ว ได้แต่แนะนำคนอื่นแต่ตัวเองยังไม่เคยได้ลองสักครั้ง แต่ครั้งนี้เลยคิดว่าลองสักหน่อยจะเป็นไร เลยจัดสเต็กเนื้อจิงโจ้มาเลย 1 จาน รสชาตถือว่าใช้ได้ ครั้งแรกทานหมดนี่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกใจรสชาต เสียดายเงิน หรือเพราะได้น้ำจิ้มแจ่วจากพี่หัวหน้าทัวร์ที่หิ้วมาจากเมืองไทยกันแน่ 5555 ด้วยเหตุนี่ วันนี้ก็เลยมาพูดถึง เนื้อจิงโจ้ ของออสเตรเลียกันค่ะ ....

ถ้าพูดถึงประเทศออสเตรเลยสิ่งหนึ่งที่พอจะนึกถึง คือ จิงโจ้ สัตว์ที่ถือว่าเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย จิงโจ้ในจินตนาการของเรานั้นมักจะมองว่าเป็นสัตว์ที่น่ารัก แต่ทุกท่านทราบหรือไม่ว่าเนื้อจิงโจ้ จัดเป็นเนื้อชั้นดีที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ ทั้งนี้เนื่องมาจากจิงโจ้ เป็นสัตว์ที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เมนูยอดนิยมสำหรับเนื้อจิงโจ้ คือ สเต็กเนื้อจิงโจ้ ความสุกที่เหมาะสม คือ Medium Rare เนื้อจริงโจ้เมื่อนำมาทำสเต็กจะมีความเหนียวมากกว่าเนื้อปกติ รสชาติเข้มข้นกว่าเนื้อวัว และจะไม่มีกลิ่นสาปเหมือนพวกเนื้อแกะ

สำหรับเมนูเนื้อจิงโจ้สามารถหาทานได้ ตามร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวเนื่องมาจากเป็นเมนูพิเศษที่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อเดินทางมาประเทศออสเตรเลียต้องลองสักครั้ง อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์เนื้อจิงโจ้ตากแห้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย นอกเหนือจากพวกตุ๊กตา หรือพวงกุญแจรูปจิงโจ้

แต่ถึงแม้ว่าเนื้อจริงโจ้จะเป็นอาหารพื้นเมืองของออสเตรเลีย หรือเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับชาวออสซี่แล้วพวกเขาเองกลับไม่ค่อยนิยมบริโภคเนื้อจิงโจ้สักเท่าไร ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลออสเตรเลียจะส่งเสริมให้ประชาชนหันมาบริโภคเนื้อจิงโจ้มากขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพวกเขายังมีความรู้สึกว่าจิงโจ้ คือ สัตว์ประจำชาติ หรือ อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขามองว่าเนื้อจิงโจ้เป็นสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติ และเนื้อจิงโจ้ที่นำมาใช้รับประทานนั้นมาจากการล่าจิงโจ้จากธรรมชาติ ซึ่งจะแตกต่างจากเนื้อหมู วัว ไก่ หรือแกะที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มปสุสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ นอกจากนั้นแล้ว ภาพซากของจิงโจ้ตามทางหลวงชนบท ที่ถูกรถชนตามท้องถนนยังเป็นภาพที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป จึงเป็นการยากที่จะทำให้ชาวออสซี่หันมาทานเนื้อจิงโจ้

ในอดีตนั้นการทานเนื้อจิงโจ้ไม่ใช้เรื่องแปลก เพราะจิงโจ้เป็นสัตว์ท้องถิ่น และเป็นอาหารพื้นเมืองของ ชาวอะบอริจิ้นโดยเฉพาะเมนูซุปหางจิงโจ้ หรือแม้กระทั้งเมื่อครั้งที่อังกฤษเข้ามาตั้งรกรากที่ออสเตรเลียครั้งแรกก็ยังต้องทานเนื้อจิงโจ้เพื่อความอยู่รอด

นักโภชนาการส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อจิงโจ้เป็นเนื้อที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วยเหตุผลที่ดำรงชีวิตอยี่ตามธรรมชาติ ไม่มีการให้อาหารหรือฮอร์โมนแบบการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม จึงปราศจากสารตกค้างในเนื้อ เป็นอาหารออการ์นิกที่ตรงตามความนิยมของผู้บริโภครักสุขภาพในปัจจุบัน และจากผลงานวิจัย ได้กล่าวว่าเนื้อจิงโจ้มีกรด Linoleic Conjugated มากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ โดยกรดดังกล่าวมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายคือ ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง ป้องกันโรคเบาหวาน และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

สำหรับเนื้อจิงโจ้นั้น ผู้ที่สามารถขายเนื้อจิงโจ้กับร้านค้าได้อย่างถูกกฎหมายต้องผ่านการสอบใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมายและจะมีการจำกัดจำนวนในการล่าเพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติ และไม่กระทบต่อระบบนิเวศ

ทั้งนี้ สาเหตุที่มีการสนับสนุนให้เกิดการล่า และบริโภคเนื้อจิงโจ้ รวมถึงส่งเสริมการส่งออกจากรัฐบาลนั้นเป็นเพราะ จิงโจ้นั้นสามารถเพิ่มจำนวนได้ถึง 4 เท่า ภายในยระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี ซึ่งหากไม่มีการควบคุมอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่อาศัยของมนุษย์อย่างแน่นอน ทั้งปัญหาการลุกล้ำไปในเขตที่อยู่อาศัย รวมถึงเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุตามท้องถนน เป็นต้น

สนนราคาหากท่านใดต้องการลองชิมเนื้อจิงโจ้ หากเป็นเมนูสเต็กตามร้านอาหาร ราคาจะเริ่มต้นที่$30หากเป็นราคาเนื้อจริงโจ้ตามซุปเปอร์มาเก็ต ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ $12 ขึ้นไป ส่วนเนื้อจิงโจ้อบแห้งราคาจะอยู่ที่ แพคละ 50 กรัม ราคาประมาณ $10

เอาเป็นว่า หากใครมีโอกาสมาถึงออสเตรเลียแล้ว ก็อย่าลืม อีกหนึ่งเมนูแนะนำ เนื้อจิงโจ้กันนะคะ

ถ้าทำใจที่จะทานได้อ่ะนะ ......