ฺBrisbane at first sight Part 4
- Alex in the Wonderland
- May 6, 2019
- 2 min read
Updated: May 14, 2019
ครั้งแรกที่บริสเบน ตอนที่ 4

Day 3 Hotel >> Gold coast >> Q1 skypoint observation >> Surfer paradise >> >>Southbank by night time>>Brisbane CBD >>Hotel
วันที่ 3 แล้วสำหรับบริสเบน วันนี้ต้องตื่นแต่เช้าเลย เพราะวันนี้จุดหมายปลายทางอยู่ที่ Gold Coast ค่ะ หลังจากมื้อเช้าที่โรงแรม ก็รีบเดินไปที่สถานีรถไฟ Brisbane Central Station เพื่อเดินทางไป Gold Coast คร้า ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟก็ใช้บัตร Gocard แตะบัตรก่อนข้นรถ แล้วก็พร้อมลุยกันคร้า

บอกเลยว่าการเดินทางจาก บริสเบนไปโกลด์โคสครั้งนี้ คือ ไม่มีแผนเลยตัดสินใจปุ้บเดินทางปั้บ รีวิวไม่ได้อ่านหรือทำการบ้านมาก่อนว่าต้องไปยังไง สิ่งเดียวที่พึ่งได้ คือ Google Map สำหรับเวลาคร่าวๆ ในการเดินทาง คือ 2 ชั่วโมง ต่อรถ 1 ครั้ง คือ จาก central station ไปลงที่สถานี Helensvale Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้น ต้องต่อรถราง ไปลงที่ สถานี Surfers Paradise อีกประมาณ ครึ่งชั่วโมงค่ะ เป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก หลับแล้วตื่นจนเบื่อไปเลย 55555

· Gold coast เมืองนี้มีหลักฐานการเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มากว่า 23000 ปีมาแล้ว แต่ได้มีการระบุในบันทึกการเดินทางของกัปตัน Cook เมื่อปี 1770 นั้นกัปตันได้บันทึกและตั้งชื่อเมืองนี้ว่า Point Danger และ Mt. Warning เมื่อครั้งที่เค้าได้เดินทางมาสำรวจริมชายฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย
ต่อมาในปี 1840 นักสำรวจชื่อ Robert Dixon ได้บรรจุเมืองนี้ลงในแผนที่เป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะนั้น Queensland ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ New South Wales อยู่ จนมาแยกเป็นรัฐ Queensland ในปี 1845 ตอนนั้นมีประชากรอาศัยอยู่ที่เมืองนี้แค่ 1599 คนเท่านั้นจากในบันทึกที่มี ต่อมาไม่กี่ 10 ปีประชากรก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในปี 1861 มีประชากรมากถึง 32838 คน
ด้วยเหตุที่เป็นเมืองที่มีอากาศอุ่น รายล้อมด้วยายหาดจะนวนมากนับไม่ถ้วน ทำให้เมืองเจริญเติบโตและมีผู้คนย้ายมาตั้งรกราก และพักอาศัยอยู่ที่นี่นั่นเอง จนต่อมาในปี 1885 นายากเทศมนตรีของรัฐควีนส์แลนด์ ได้มาสร้างบ้านริมชายหาดเพื่อสร้างบ้านพักต่างอากาศ ที่บริเวณ ใกล้กับ South port จนกลายเป็นแฟชั่นที่มีต่อการสร้างรีสอร์ทต่างๆ เพื่อพักต่างอากาศที่นี่ตามมา


ในปี 1925 นักลงทุนชื่อ Jim Cavil ได้ลงทุนก่อสร้าง Surfers Paradise Hotel จนทำให้กลายเป็นเมืองศุยน์กลางการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมตั้งแต่ในยุคนั้น จนถึงในปัจจุบัน
ในขณะนั้น เมืองยังคือเป็นที่รู้จักในชื่อ Seaside town of South Coast เมื่อเกิดสงความโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้เป็นเมืองชายฝั่ง จึงได้ถูกจัดเป็นพื้นที่เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของกองทัพ ซึ่งนอกจากเป็นฐานทัพของออสเตรเลียแล้ว ยังมีกองกำลังเสริมจากทหารฝ่ายพัธมิตรอย่างสหรัฐเดินทางมาอยู่ที่นี่ด้วย ในยุคนั้นนักข่าวได้ตั้งฉายา เมืองนี้ว่าเมือง Gold Coast
เมื่อเสร็จสิ้นสงครามเมืองได้ขยายเติบโตเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วจากทั้งที่เป็นที่รู้จักของคนพื้นที่อยู่แล้ว และจากปากต่อปากของทหารอเมริกาที่เคยมาสัมผัสกับบรรยากาศ สายลมแสงแดดของที่นี้ และเมื่อเมืองเติบโต ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ปี 1958 เมืองจึงมีมติให้เปลี่ยนชือเป็น Gold Coast อย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน Gold Coast เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศออสเตรเลีย และเจริญเติบโตเป็นอันดับ 1 สำหรับเมืองที่ไม่ใช่เมืองหลวงค่ะ งงมั้ย 5555


ที่ Gold coast นั้น จริงๆแล้วมีชายหาดที่สวย และมีชื่อเสียงหลายแห่งด้วยกัน แต่วันนี้มีเวลาน้อย เลยเลือกหาดที่มีความสำคัญ และเป็นไฮไลท์ที่ทำให้โกลด์โคสกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่งโลกนั้น คือ หาด Surfers paradise อีกทั้ง หาดแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของตึกที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศออสเตรเลีย คือ Q1 หรือ ชือเต็มว่า Queensland Number 1 มาถึงที่นี่แล้ว จะพลาดได้ยังไง


พอลงจากสถานีรถรางที่ Surfer paradise มองย้อนกลับไปก็จะเห็นตึกสีฟ้าสูงตั้งตระหง่าน มีปลายเสาสูงชี้ขึ้นไปบนฟ้า นั่นแหละค่ะ ตึก Q1

· Q1 skypoint observation ตั้งอยู่บนชายหาด Surfer Paradise เป็นตึกที่มีสูงที่สุดในประเทศออสเตรเลีย หากวัดจากพิ้นจนถึงยอดปลายเสาของตึก โดยมีความสูงที่ 322.50 เมตร แต่ถ้าหากวัดจากพื้นดินจนถึงดาดฟ้าของตึกยังถือว่าเป็นรองตึก Euraka tower ที่ Melbourne นะคะ

จุดชมวิวของตึกอยู่ที่ชั้น 77 สูงจากระดับพื้นดินประมาณ 230 เมตร บนนั้นสามารถมองวิวได้รอบ 360 องศา ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นในปี 2002 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี จนเสร็จในปี 2005 และทำการเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ตุลาคม 2005


สำหรับตึกนั้นจะมีทางเข้า 2 ทาง คือ ทางเข้าส่วนแรก จะเป็นทางเข้าสำหรับผู้ที่มาเข้าพักที่นี่ เพราะ อาคาร Q1 นี้ เป็น Entertainment and Residents building ที่มีทั้ง ห้องพัก ซาวน่า และโรงหนังเป็นต้น แต่สำหรับทางเข้าเพื่อที่จะขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ Q1 skypoint observation จะเป็นอีกทางหนึ่ง โดยเดินเข้ามาทางจุดที่เป็นร้านค้าต่างๆ เดินเข้ามาก็จะเจอกั[เจ้าหน้าที่ยิ้มหวานคอยต้อนรับอยู่ค่ะ

ก่อนเข้าไปก็ต้องเสียค่าบัตรก่อนนะค่ะ สนนราคาก็อยู่ที่ $27 จ่ายค่าเสียหายเรียบร้อย ก็เข้าไปยืนต่อคิว เพื่อที่จะขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นจุดชมวิว คือ ชั้นที่ 77 และ 78 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของตึกค่ะ ลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน ที่พิเศษคือ แม้ว่าตึกจะมีความสูง และลิฟท์จะต้องขึ้นไปถึงชั้นที่ 77 แต่เชื่อมั้ยว่า ใช้เวลาแค่ 40 วินาที ก็ขึ้นถึงชั้นบนสุดของตึกแล้ว คือแบบตอนอยู่ในลิฟท์ คือ รู้สึกได้เลยว่ามันเคลื่อนตัวเร็วมาก มองไปที่ตัวเลขว่าเราอยู่ที่ชั้นไหน แล้วความสูงแค่ไหนแล้ว มองไม่ทัน ตัวเลขเปลี่ยนเร็วมาก ขาลงตั้งหลักได้ถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วยว่าเร็วขนาดไหน และบอกเลยว่า กลัวมาก 555555

ด้วยเหตุที่เป็นทริปแบบไม่ตั้งใจ เลยต้องมาแบบไปเช้าเย็นกลับ หลังจากรวบรวมเสบียงเพื่อประทังชีวิตบนรถไฟได้แล้ว ก็ถึงเวลาบอกลา Gold Coast และกลับ Brisbane เส้นทางการเดินทางแบบเหมือนขามาแป๊ะๆ ไม่อยากนอกเส้นทางเพราะกลัวคืนนี้กลับไม่ถึงโรงแรม 5555
ขากลับเลือกลงที่ สถานี South Brisbane station แทนที่จะลงที่ central Station เหมือนเมื่อเช้า เพราะ ระหว่างทางกลับไม่มีไรทำ ก็นั่งเช็ครูปตัวเองไปมา เกิดอยากได้ภาพเมืองจากทางฝั่ง South bank เพราะตอนที่ไปถ่ายมาเมือวานคนเยอะมาก คิดว่ากลางคือคนน่าจะน้อยลง และวิวเมืองตอนกลางคืนริมน้ำคงสวยอยู่ไม่น้อย พอลงไฟมาถึงริมฝั่งน้ำ บอกเลยว่าวิว ว้าวววว มาก คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจกลับมา South bank เวลานี้ เพราะ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วด้วยที่จะพักที่ บริสเบนไม่มาถือว่าพลาดมาก





สรุปถ่ายรูปมาได้แบบสมใจ แล้วก็นั่งอยู่ริมน้ำอย่างนั้นได้อีกเกือบชั่วโมง แต่พอเริ่มรู้สึกว่าคนเริ่มน้อยๆ แล้ว สักสามทุ่มครึ่งได้ ก็รีบจ้ำๆกลับโรงแรมเหมือนเคย มื้อเย็นวันนี้ไม่หรูหราเท่าเมื่อคืน มีข้ออ้างกับตัวเองว่าอากาศหนาว อยากกินไรอุ่นๆ ม่ามาต้มยำกุ้งจึงกลายเป็นคำตอบสำหรับมิ้อเย็นวันนี้ 55555
Comments